กันยายน 06, 2549

Freedom



มีเสียงย่ำเท้าใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ความกลัวคืบคลานตามมาติดๆ ผมกดปุ่มสีเขียวที่เท้า สองสามครั้ง เพื่อปรับค่าความรู้สึก ให้สามารถรองรับความหวาดผวาได้มากขึ้น ใช่แล้ว ผมมีชิบ อารมณ์ ความรู้สึก เพราะผมเป็นหุ่นยนต์ เสมือนคน ที่ผลิตขึ้นในปี พ.ศ. ๓๒๗๗ รุ่นแรก ที่ติดตั้งหน่วยความจำชนิดนี้ โดย ดร.จรัสพงศ์ ผู้สร้างผมและหุ่นรุ่นเดียวกันอีก สิบสองตัว เพื่อรองรับสงครามโลกครั้งที่เจ็ด โชคร้ายที่หุ่นยนต์สิบเอ็ดตัวที่เหลือ ต้องกลายเป็นเศษขยะโลหะ เมื่อสงครามสิ้นสุดลง และผมก็มารับใช้งานของกรมดับทุกข์ ซึ่งเรียกกันว่า กรมตำรวจเมื่อพันปีก่อน
ผมกำปืนรังสี เจสิบหก แน่น ปืนชนิดนี้ใช้จัดการคนได้อย่างรวดเร็ว แต่ไม่เป็นผลร้ายต่อสภาพแวดล้อม ใช่สินะ ทุกวันนี้หาต้นไม้ยากเต็มที แม้แต่เรื่องการรบราฆ่าฟัน ก็ยังคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมเป็นหลัก ผู้คนในยุคสมัยนี้ เกิดมาก็ต้องมีครอบแก้ว เพราะอากาศที่เลวร้ายเหลือขนาด ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณถอดครอบแก้วออก ภายในเวลาห้านาที คุณจะเสียชีวิตทันที!
เสียงย่ำเท้ายิ่งใกล้เข้ามาอีก ผมรวบรามสติ (เป็นหน่วยความจำสำรอง ที่ติดไว้ในเยื่อสมองเทียมของหุ่นยนต์เสมือนคน รุ่น ทีทีทีสิบสอง) แล้วพุ่งตัวพร้อมเล็งปืนรังสีไปตามทิศทางของเสียงย่ำเท้า ทันทีที่ผมออกตัวได้ระยะไม่เกินสองเมตร เป้าหมายก็ปรากฏตัว เป็นคน ที่สวมชุดเกราะ ไม่ทราบว่าเป็นเกราะรุ่นใด ผลิตที่ไหน เมื่อไหร่ เพราะหน่วยความจำของผม ไม่มีข้อมูล ถ้าจะรอการดาวโหลดข้อมูลแบบไร้สาย ก็ต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่าสิบสองวินาที
ผมตัดสินใจยิงปืนออกไป ระบบเล็งอัตโนมัติ ตั้งเป้าไว้ที่ส่วนศีรษะ ซึ่งเป็นการยิงหวังให้เป้าหมายตายทันที เพื่อช่วยลดความเจ็บปวด เป็นกฎ ที่ฝังในหน่วยความจำถาวร ของหุ่นยนต์ทุกตัว ไม่สามารถแก้ได้ ถ้าหุ่นยนต์จะทำการทำลายร้างสิ่งมีชีวิต ที่เป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตอื่น หรือปกป้องอันตรายสิ่งมีชีวิตอื่น จะต้องทำลายที่ส่วนหัวเท่านั้น ไม่ให้สิ่งมีชีวิตที่เป็นเป้าหมายต้องเดือดร้อน ทรมานโดยเด็ดขาด มิฉะนั้น หุ่นยนต์ตัวนั้นจะถูกทำลายด้วยระบบทำลายตัวเอง ยกเว้นกรณีเดียวคือ ไม่ตั้งใจ!
ปืนที่ผมยิงออกไป โดนเข้าที่ศีรษะของคนในชุดเกราะอย่างจัง เสียงดัง "บึ้ม" ก้องไปทั่วห้อง เกิดแสงสว่างจ้า แม้เวลานี้จะเป็นเวลากลางคืนแล้วก็ตาม แต่ความสว่างประมาณสองสามวินาทีที่เกิด ก็ทำให้เห็นทุกอย่างภายในตัวตึกชัดเจนมาก
คนผู้ที่เพิ่งถูกแสงจากปืนรังสี เจสิบหก ความเข้ม สิบเอ็ด พีพีเอ ล้มลงกับพื้น แน่นิ่งไปทันที เมื่อผมใช้เครื่องแสกนสภาพมีชีวิตส่องดูร่างที่ไม่ไหวติงนั้นสักครู่ ก็พบว่า ตอนนี้ ความมีชีวิต ที่แสดงออกด้วยการเต้นของหัวใจ การไหลเวียนของเลือด ม่านตาที่เปิด และระบบหายใจ ทุกอย่างหยุดทำงาน ผมจึงค่อยๆปรับระดับความตื่นเต้นให้เป็นปกติ ก่อนเดินช้าๆ รอบคอบ ตามหลักสูตรที่ดีของหุ่นดับทุกข์แห่งกรมดับทุกข์ ไปยังร่างตายร่างนั้น
ทันทีที่ผมไปถึง มีเสียงเพลงเล็กๆดังออกมาจากส่วนหูของชุดเกราะ ซึ่งยังทำงานอยู่ แม้ชุดจะมีไฟคุ ด้วยความร้อนสูง ด้วยแรงทำลายของรังสีจากปืน เพลงนั้นเป็นเพลงเก่า เมื่อหลายพันปีก่อน มีเนื้อร้องเป็นภาษาไทย ซึ่งผมสามารถจับใจความได้ว่า"ให้มันแล้ว แล้วไป.."
ผมก้มลงเก็บระเบิดที่อยู่ในมือของอาชญากรผู้นี้ ซึ่งเตรียมไว้ต่อสู้กับผม และผมก็พบว่า มันเป็นระเบิดเวลาที่เหลือเวลาในการระเบิดอีกเพียงสามวินาที
ผมกดปุ่มที่เท้าอีกครั้ง มันคือปุ่ม หมดลมหายใจ.. ผมเป็นอิสระแล้ว!

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น