เมษายน 25, 2550

วง Arcade Fire

รู้จักวงนี้จากหน้า Recommend.. ของ amazon.com
ชุด Neon Bible ปี 2007 (นีออน ไบเบิ้ล)
แต่เพิ่งอ่านเจอว่า คนไทยรู้จักวงนี้กันใหญ่
เพราะป้าแต๋ว วาสนา ไปชมไว้ในรายการ
(อะไรไม่รู้ ไม่ได้ฟังวิทยุมาหลายปีแล้ว)

แต่ผมชอบมากเลย เพราะผมได้ดู Concert
ในรายการทีวีนึงของพวกเขา
คนร้องมันร้องได้หน้าจริงจังดี เพลงที่ว่า

"Intervention"

เอาเนื้อมาและลองแปลๆ
แต่ว่าต้องดูเองครับ ฟังก็เพราะดีนะ
แต่ถ้ายิ่งได้ดูตอนเล่นแล้วยิ่ง.. เจ๋งว่ะ
สมแล้วที่ป้าแต๋วชอบ
วงนี้ใช้เครื่องเคาะ นิ้งหน่อง ไวโอลิน ด้วย...
แปลกและดีครับ ต้องลองดูนะ

The king's taken back the throne
กษัตริย์ได้บัลลังค์คืน

The useless seed is sown
เมล็ดพันธุ์ขยะเน่าเฟะที่ไร้ค่า ถูกหว่านปลูก

When they say they're cutting off the phone
เมื่อพวกมันพูดว่า พวกมันมาขอตัดโทรศัพท์

I tell 'em you're not home
กรูจะบอกพวกมันว่า มรึงไม่อยู่บ้าน


No place to hide
ไม่มีที่ไหนให้ซ่อนหรอกเว้ย

You were fighting as a soldier on their side
มรึงกำลังต่อสู้เหมือนเป็นทหารข้างเดียวกับพวกมัน

You're still a soldier in your mind
มรึงยังคงเป็นทหารในหัวของมรึง

Though nothing's on the line
แม้ว่าไม่มีสายเรียกเข้ามาเลย

You say it's money that we need
มรึงพูดว่า เงินน่ะคือสิ่งที่พวกเราต้องก๊านต้องการ

As if we're only mouths to feed
ก็เพราะมรึงคิดว่าพวกเราเป็นเพียงปากที่ต้องหาของมายัดให้อิ่ม

I know no matter what you say
กรูรู้ว่า ไม่ว่ามรึงจะพร่วดอะไรออกมา

There are some debts you'll never pay
มันจะมีหนี้ ที่มรึงจะไม่สามารถจ่ายคืนได้แน่ๆ ชัวร์ๆนะสาด

Working for the Church while your family dies
ทำงานให้กับโบสถ์ ในขณะที่ครอบครัวตาย

You take what they give you and you keep it inside
มรึงเอาสิ่งที่พวกแม่งให้มรึง แล้วเก็บมันไว้ข้างในกะบาล

Ever spark of friendship and love will die without a home
แม้แต่ประกายของความสัมพันธ์ฉันท์เพื่อนและความรักก็จะตาย โดยไร้บ้านวะ

Hear the solider groan, "We'll go at it alone"
ได้ยินเสียงทหารครางหงิงๆว่า "พวกกรูจะไปที่มันลำพัง"


I can taste the fear
กรูสัมผัสรสชาติความกลัวได้นะ

Lift me up and take me out of here
ช่วยดึงกรูขึ้นแล้วเอากรูออกไปจากที่นี่ด้วย

Don't wanna fight, don't wanna die
กรู้ไม่อยากสู้และไม่อยากตายโว้ย ไอสาด

Just wanna hear you cry
กรูอยากได้ยินเสียงมรึงร้องไห้ก็แค่นั้น

Who's gonna throw the very first stone?
แล้วใครเล่าจะเป็นคนโยนหินก้อนแรกสุด

Oh! Who's gonna reset the bone?
โอ้! แสรด ใครจะตั้งค่ากระดูกใหม่ (แปลมั่วมาก)

Walking with your head in a sling
ตอนเดินไปโดยมีหัวแขวนอยู่บนลวดสลิงซะงั้น

Wanna hear the solider sing:
อยากได้ยินเสียงทหารร้องเพลงว่า

"Been working for the Church while my family dies
เคยทำงานให้กับโบสถ์ขณะที่ครอบครัวตาย

Your little baby sister's gonna lose her mind
คนเลี้ยงเด็กของมรึงกำลังหัวเสีย

Every spark of friendship and love will die without a home"
แม้แต่ประกายของความสัมพันธ์ฉันท์เพื่อนและความรักก็จะตาย โดยไร้บ้านวะ

Hear the soldier groan "We'll go at it alone.
ได้ยินเสียงทหารครางหงิงๆว่า "พวกกรูจะไปที่มันลำพัง"

I can taste your fear
กรูสามารถชิมความกลัวของมรึงได้เลยเนี่ย

It's gonna lift you up and take you out of here
มันจะทำให้มรึงออกมาจากที่นี่ได้

And the bone shall never heal
และกระดูกก็จะไม่เคยถูกเยียวยา (งง)

I care not if you kneel
กรูไม่แคร์หรอกถ้ามรึงคุกเข่า

We can't find you now
พวกกรูไม่สามารถหามรึงเจอะเลยตอนนี้

But they're gonna get the money back somehow
แต่พวกมันก็จะเอาเงินคืนมาได้อยู่ดี (เอ๊ะยังไงวะ)

And when you finally disappear
และท้ายสุดเมื่อมรึงหายตัวไปเลย

We'll just say you were never here
พวกกรูก็จะพูดว่า มรึงไม่เคยอยู่ที่นี่เลยละกัน

Working for the church while your life falls apart
ทำงานในโบสถ์ ขณะที่ชีวิตมรึงล่มจม

Singing halleluiah with the fear in your heart
ร้องเพลง ฮาเลลูย่า กับความกลัวในหัวใจมรึง

Every spark of friendship and love will die without a home
ทุกแสงสว่างของความเป็นมิตรและความรักจะตายโดยไร้บ้าน

Hear the solider groan, "We'll go at it alone"
ได้ยินเสียงทหารครางหงิงๆว่า "พวกกรูจะไปที่มันลำพัง"

Hear the solider groan, "We'll go at it alone"
ได้ยินเสียงทหารครางหงิงๆว่า "พวกกรูจะไปที่มันลำพัง"

เมษายน 23, 2550

เพชรพระอุมา นิยายที่ยาวที่สุดในโลก

เพิ่งทราบ

หลังจากอ่านไปถึงบทเกี่ยวกับเพชรพระอุมา
ที่คุณ วินทร์ เลียวฯ แต่ง (นิยายข้างจอ)

ประทับใจครับ ท่าน พนมเทียน

เขียน 26 ปี เป็นนิยาย 3 ภาค
เอาหนังสือมาต่อกัน สูงกว่าตัวคน
อยากรู้ว่า มีคนในไทย อ่านจบทุกเล่ม กี่คน!

ปล. ผมไม่เคยอ่านแม้แต่บรรทัดเดียวเลย
(ภูมิใจมากมาย T_T) ได้งี้แล้ว
อยากซื้อมาเก็บเลย มันคึกๆไงไม่รู้

ความเลวของเรา ถูกจำด้วยคนอื่น

พี่สิบเด เล่าใน blog ประมาณนี้ครับ
ผมเห็นว่าจริง
เลยมาเขียน
เผื่อใครลืม เวลาทำผิด
จะได้ไม่ต้องกลัวว่าจะลืม
ถ้าความผิดนั้นไปกระทบคนอื่น
เพราะคนนั้นจะช่วยจำให้เรา

แล้ว...

ชดใช้กรรมกันไปแล้วกันวะ

เมษายน 19, 2550

และแล้วก็ถึงวันที่ 19 เมย T_T

ตามหมายกำหนดการ
วันนี้เป็นวันที่ "แสงศตวรรษ" จะได้เข้าฉาย
โดยฉายแบบจำกัดโรงแค่เพียงสองโรง
คือ เอสพลานาด กับ สยามพารากอน

ตั้งแต่ที่มีเรื่องกับกองเซนเซอร์
ผมก็ทำใจไว้แล้วว่าคงไม่ได้ดูแน่ๆ
และวันนี้ วันที่รอคอยก็มาถึง
แต่พวกเราที่เฝ้ารอ
ก็คงหมดหวังเสียแล้ว

มีการสัมภาษณ์ หนึ่งในทีมของ
กองเซนเซอร์ โดย นักวิจารณ์หนัง
นันทขว้าง

ลองเข้าไปอ่านกันได้ครับ

http://www.oknation.net/blog/nantakwang/2007/04/17/entry-3

เมษายน 15, 2550

ความคาดหวังในการทำงาน..

"คุณคาดหวังอะไรบ้าง"
"ผมไม่คาดหวังอะไรเลย"
"หมายความว่า คุณคาดหวังจะไม่ได้อะไรเลย หรือคุณ
ไม่แม้แต่คาดหวัง"
ผมนิ่งไปสักครู่
"การทำงานกับคนที่เรานับถือ มีให้คิดสองข้อ
ข้อแรกคือ ความรู้สึกเป็นเกียรติ
ผมไม่คิดว่าโอกาสแบบนี้เกิดได้กับทุกคน
คนบางคนอยากได้รับโอกาสนี้ แบบรายการ
เกมส์โชว์ -- คุณได้รับสิทธิ์นั้น เดี๋ยวนี้ครับ --
แต่ผมว่ามันเหมือนถูกรางวัลจากการจับฉลาก
หรือเล่นไพ่แล้วชนะมากกว่า มันไม่ได้เกิดประจำ
ดังนั้น ผมเลยไม่คาดหวังอะไร ปล่อยให้มันไหล

เหมือนเพลงวง Suede ว่าไว้ครับ...
Everything Flows

อย่างที่สองคือ เราต้องถามตัวเองก่อนว่า
เราเต็มใจทำหรือไม่ มันคือสิ่งที่เราเองต้องการจริงๆ
หรือเปล่า เพราะเราไม่ได้สร้างโอกาสนี้ขึ้นมา
แต่โอกาสมาหาเราเอง ถ้าคุณเคยดูหนังเรื่อง 13
คุณจะเข้าใจ คำว่าโอกาสที่แลกมา ถ้ามันไม่ดี
ผมก็คงไม่ทำ แม้จะทำให้ผมร่ำรวย
แต่ให้ต้องทำอะไรแบบนั้น ผมคงไม่ทำหรอก
แสดงว่าสิ่งที่ทำ ต้องยืนอยู่บนรากฐานของความสุขด้วย
ก็เท่านั้น

สรุปว่าผมตอบสองข้อนี้ได้ทั้งคู่
ดังนั้น ผมจึงทำ โดยไม่คาดหวังอะไรครับ"

"ผมฟังคุณแล้วรู้สึกว่า คุณรู้สีกเป็นเกียรติ
และทำงานด้วยความสุข... จะมีอะไร
ดีไปกว่านี้อีกล่ะนะ" ...

เมษายน 14, 2550

สูตรเด็ด ฟังเพลงดีๆ มากมายโดยไม่ต้องเสียเงินมาก

สำหรับสงกรานต์นี้ ผมมีสูตรเด็ดสำหรับนักท่องเน็ต
ที่ชอบฟังเพลงแบบตัวจริง
คำแนะนำนี้ สำหรับคนที่
ยังไม่มีความรู้เกี่ยวกับ Torrent นะครับ
ใครที่รู้อยู่แล้ว หรือใช้อยู่เป็นประจำ ไม่จำเป็นต้องอ่าน

การฟังเพลงสากล แบบไม่ต้องเสียเงินมาก
ทำอย่างไร...

1) คุณต้องมีเครื่องเล่นเพลง mp3 ที่มีคุณภาพ
อันนี้สำคัญมากครับ แนะนำยี่ห้อที่ผมใช้อยู่ก็
iriver >> http://www.iriver.com
หรือ iPod ของแอ๊ปเปิ้ล >> http://www.ipod.com
(ไอพอด ไม่เคยใช้นะครับ แต่รู้ว่าเสียงมันดีจริง)

2) คุณต้องมีหูฟังที่เสียงพอโอเค ซึ่งยี่ห้อที่น่าสนใจมีมากมาย
อย่างเลิศหรู ก็ bose >> http://www.bose.com/
อย่างโอเค ก็ sony (รุ่น ex-monitor) >> http://www.sony.com
(จริงๆมีมากมายแต่ผมใช้สองตัวนี้เลยแนะนำ)

3) เข้าเวบ http://www.amazon.com แล้วสมัครสมาชิก
เข้าไปหาเพลงที่คุณชอบ เช่นวงโปรด หาหลายๆวงหน่อย

4) จากนั้น ระบบจะประมวลวงที่เหมาะกับคุณให้
ให้คุณเลือก Recommendations

5) เข้าไปที่เวบ http://www.bitcomet.com/
คุณจะได้ตัวโปรแกรมสำหรับโหลด file Torrent

6) หาชื่อวงที่ได้จากข้อ 3 แล้วคุณเข้าไปที่เวบ
http://www.mininova.org

7) คุณจะได้ file นามสกุล .torrent มา
ให้คุณเปิดโปรแกรม bitcomet เพื่อดึงไฟล์
เพลงที่มีคน seeding เยอะๆ

8) speed อาจจะไม่มาก แต่เพราะ mp3 ไม่ใหญ่
ทำให้คุณสามารถหาเพลงที่เหมาะกับคุณ เอาไว้
ฟังด้วยเครื่องเล่น mp3 ด้วยงบประมาณไม่มาก
เสียงก็ดีด้วยอ่าครับ J

สายฝนวันสงกรานต์

สุขสันต์วันหยุดสงกรานต์ครับผม :)

สายลมพัดจนกิ่งไม้ใหญ่ที่มีใบอยู่เอนเอียง
สายตาที่เหม่อมองแห้งเหือด สองเท้าก้าวถี่
นกตัวเดิมบินกลับรัง ผ่านกิ่งไม้ที่กำลังไหว
เธอจับชายกระโปรงไม่ให้ปลิวตามลม


เสียงของพายุใกล้เข้ามาเรื่อยๆ พร้อมละอองน้ำ
ที่กำลังเพิ่มปริมาณและขนาดเม็ดฝน
เธอเปลี่ยนเอามือกุมหน้าอกตัวเองแทน
แล้ววิ่งฝ่าสายลมไปตามทางจนฝนเทหนัก
ร่มไม่มีติดมือมา จึงต้องจำเปียกปอนคลุกฝน
วันสงกรานต์ คนสาดน้ำ ...
เธอยังไม่ทันได้เล่นสงกรานต์กับใคร
ตัวก็เปียกแล้ว ที่แย่กว่านั้น ไม่มีที่หลบเลย
ต้องวิ่งกุมหน้าอกตัวเองไปอีกไม่น้อยกว่าสองร้อยเมตร

ทันใดนั้นเอง น้ำปริมาณค่อนข้างมาก จากทางด้านขวา
ไม่ใช่ด้านบน ก็ซัดมาทางเธอเต็มๆ
เสียงหัวเราะตามมา กลุ่มเด็กวัยรุ่นเล่นสงกรานต์
ทำหน้าที่ในวันนี้ (ขณะฝนตก) กันอย่างสุดๆ

ไม่ต้องปกต้องปิดอีกต่อไป เปียกทั้งตัว
เธอโมโหก็โมโห สงสารตัวเองก็สงสาร
เพราะวันนี้... ทำไมต้องออกจากบ้านด้วย!

เมษายน 12, 2550

แสงศตวรรษ

ไม่เห็นด้วยกับการเซนเซ่อร์หนังของคุณเจ้ย
เพราะไม่มีความจำเป็นต้องเซ็นเซ่อร์หนังที่
ไม่ได้ทำเพื่อ Commercial แต่ทำเพื่อคนกลุ่มหนึ่ง
ซึ่งต้องการชมหนังศิลปะ ไม่ได้ให้คนหมู่มากดู
ผมคิดว่าเด็กๆ คงไม่ไปดูหรอกครับหนังเรื่องนี้
ผู้ใหญ่ที่โตแล้ว หรือวัยรุ่นที่สนใจหนังศิลปะ
คงจะไปดูกันกลุ่มเล็กๆ และดูด้วยความชื่นชม
มากกว่าจะดูอะไรโด่ไม่โด่ พระเล่นกีตาร์เก่งไหม
หรือหมอเมาเป็นไงหรอกครับ

คือมันคิดง่ายๆ ว่าถ้าหนังประมาณนี้ออกมา
กองเซ็นเซ่อร์ไม่ควรตัดไรเลย เพราะไม่ถูกต้อง
ควรปล่อยให้หนังทำหน้าที่สำหรับคอหนังโดยเฉพาะเท่านั้น
ผมเจ็บปวดแทนพี่เจ้ยเรื่องที่หนังเขาไม่ได้รับการยอมรับจากคนไทยด้วยกัน
เหมือนที่ ผู้กำกับหนังอย่าง 3 Irons (ชาวเกาหลี จำชื่อมะได้) โดน
เป็นเรื่องแปลกและตลกมาก ที่คนไทยมีคนเก่ง มีมุมมองที่สากลยอมรับ
แต่กลับถูกมองว่าไม่ได้เรื่องในสายตาคนในประเทศตัวเอง

บ้าบอที่สุด 

เมษายน 10, 2550

คอมพิวเตอร์มือถือในอนาคต

ตอนนี้ คอมพิวเตอร์แบบบุคคล แบบใหม่ที่เรียกว่า UMPC
เริ่มออกมาให้เห็นกันบ้าง โดยมี 2 OS
แบบ Windows Mobile โดยที่เป็นโทรศัพท์มือถือ ด้วย
และเป็นแบบ Tablet PC ที่เหมือน Tablet PC แต่เล็กกว่า
แต่ไม่เป็นโทรศัพท์มือถือ

ผมว่า ใจผมยังคิดว่าตัวเองอยากได้ Tablet PC มากกว่า
แต่... ผมก็รัก PDA Phone ครับ
ปัญหาคือ ตอนนี้ เขาพยายามผนึก
PDA Phone กับ Notebook เข้าด้วยกัน
แล้วเรียกว่า UMPC

ปัญหาคือ มันจะไม่ใช่ Notebook
ถ้ามันเป็น Mobile ด้วย
และมันก็จะไม่ใช่ PDA Phone
ถ้ามันไม่เป็น Mobile

เอาเป็นว่า ถ้ามันรวมกันได้แบบสมบูรณ์
คือเป็นทั้ง notebook ที่สมบูรณ์ ลงโปรแกรมได้ปกติ
และในขณะเดียวกันก็เป็น Mobile Phone ด้วย

ทีนี้ล่ะ.... มันคือตัวเก็ง!

มนุษย์ต่างจากหุ่นยนต์อย่างไร

การ์ตูนใหม่เพิ่งเช่ามาอ่าน
พลูโต จับเอาเรื่องของ เจ้าหนูอะตอม
การ์ตูนสุดคลาสสิก มาทำใหม่
ในมุมมองใหม่

ประโยคที่ผมประทับใจในเล่มหนึ่ง
เพิ่งอ่านเมื่อวานที่ KFC ไอทีมอล์
มีอยู่ว่า หุ่นยนต์ บอกกับคน เมื่อคนพูดว่า
เดี๋ยวนี้คนกับหุ่นยนต์เหมือนกันจนแยกไม่ออก
เจ้าหุ่นบอกว่า ต่างกันสิ

"มนุษย์ชอบเคลื่อนไหวโดยไร้ความหมาย"

มาคิดดู นี่เป็นข้อคิดเหมือนกันนะ
เพราะทุกวันนี้ การทำอะไรของคนเราโดย"ไร้ความหมาย"
เกิดขึ้นเองโดยเราไม่รู้ตัว อย่างกระดิกขา
หรือทำมือประกอบการพูด หรือประโยคอะไรที่
มันออกมาแบบไม่รู้ตัว อย่าง "เอ่อ.. " "แบบ.."

คือ จะบอกว่าอะไรดี "ขาดสติตลอดเวลา" ได้ไหม

ผมว่าผมเป็นเอามาเรื่องนี้ คงต้องมีสติกว่านี้

แต่บางทีการไร้สติ ก็พาเราไปอีกโลก และช่วย
ให้เราทำอะไรที่เราทำไม่ได้เวลามีสติเหมือนกัน

อะไรดี... อืมมมม.. มันต้องมีสิ

ลองคิดดูแล้วกันครับ

เมษายน 05, 2550

โทรศัพท์มือถือกลายพันธุ์

หลังจากพิสูจน์กันมาพอสมควรแล้ว
กับมือถือที่กลายพันธุ์เป็น

กล้องถ่ายรูป
เครื่องเล่น mp3
เครื่อง Pocket PC
บัตรเครดิต
ฯลฯ

ตอนนี้ มีไอเดียใหม่ที่ยังไม่เกิดอีกไหม
ลองคิดเล่นๆ

มือถือที่กลายพันธุ์เป็น

หวี
กล่องใส่ข้าว
ยกทรง
กางเกงใน
ถุงยางอนามัย
กระดุม
แว่นตากันแดด
ช้อน ส้อม มีด
... -_-"

ทุกอย่างสามารถผสมผสานความกลมกลืน
ให้กลายพันธุ์เป็นโทรศัพท์มือถือได้หมด
แม้แต่ ฝักบัวอาบน้ำ
โทรทัศน์ขนาดเล็ก
หรือสากกระเบือ...

สาด.. :P

ฝันมีสี

จำฝันกันได้ไหม
เวลาฝัน ฝันนั้นเป็นภาพสีไหม

ในฝันที่เราพานพบ บางคน ทุกคืน
จำรายละเอียดกันไม่ค่อยได้
ส่วนใหญ่ จะลืมมันไปเมื่อตื่น
คำถามคือ ทำไมมันไม่จำ

ความฝันเป็นประสบการณ์หรือไม่
การฝันเป็นเพียงความคิด?

ผมจำได้ว่า ความฝันมีสี
จริงๆ เราไม่ต้องจำก็ได้
ว่าฝันมีสีหรือไม่
แต่เราต้องเข้าใจว่า
ฝัน ไม่ต่างจากจริง

เพราะว่า เราไม่รู้สึกว่าเรากำลังฝัน
เพราะว่า เราเห็นสิ่งที่เหมือนจริง
ฝันกับจริง จึงมีตัวร่วมกัน แทบทุกๆ

ความฝันมีสี เหมือนชีวิตปกติ
.....................................

ฉี่รดที่นอน ตอนเด็ก
ปัจจุบัน ไม่แล้ว
เพราะแม้จะฝันว่า ยืนที่โถฉี่
และเบ่งฉี่ออกไปอย่างแรง
ฉี่พุ่ง (ในฝัน)

แต่กระบวนการในร่างกาย ไม่ยอม
ทำให้ตื่นมา ปวดฉี่อย่างแรง
แต่ไม่ได้ฉี่ออกไป

แปลกดี บางทีปวดมากๆ แต่ง่วงกว่า
เลยฝันว่า ลุกไปฉี่แล้ว ออกจนสบาย
แท้จริงแล้ว มันฝันนี่หว่า!

ก็คงปวดกระเพาะปัสสาวะ ต่อไป
จนได้ตื่นจริงๆแล้วลุกไปฉี่นี่แหล่ะครับ

ฝันซ้อน ซ่อนจริงเท็จ ...
แล้วเราจะรู้กัน

Some days we'll know .. (คุ้นๆว่ะ)

เมษายน 04, 2550

จอแบน

เธอมีจอแบน
เธอมีริทซ์แบนด์
เธอมีแฟนแฟน
เธอมีเงินแสน

เพราะเธอจอแบน
เพราะเธอจอแบน :P
เพราะใครๆก็ชอบจอแบน
เดินแบบก็จอแบน
ในทีวีก็จอแบน
จอแบนจงเจริญ.. วู้วๆๆๆ
 

ลบความทรงจำ

ปี 2550 นักวิทยศาสตร์พบวิธีการ
ทำให้สมองลบความทรงจำบางส่วนออก
โดยผู้รับการลบ สามารถระบุ keyword ได้
ว่าต้องลบอะไรออกจากความจำ

ยกตัวอย่าง แฟนเก่า เราระบุคำว่า แฟนเก่า
ใส่ลงใน eraser memory machine
ระบบจะส่งคลื่นไปค้นหาทุกความจำ
ที่เกี่ยวกับแฟนเก่า และดำเนินการลบ
สิ่งที่เก็บในสมองที่เชื่อมโยงถึงเรื่อง
แฟนเก่า ออกไปจนหมด

ปัญหาขณะนี้ที่กำลังพยายามแก้ไข
คือการลบความทรงจำแล้วนำกลับมาไม่ได้
จากแหล่งข่าวรายงานว่า
อาสาสมัครจำนวนกว่าร้อยคน
โดนลบความทรงจำผิดๆ จนบางคน
จำพ่อแม่ตัวเองไม่ได้ เพราะระบบ
Keyword ยังกว้างเกินไป
ทางด้าน ดร. จิม หว่อง หัวหน้า
ทีมวิจัย ได้พยายามหาวิธีระบุ
ความทรงจำให้แคบลงกว่านี้

โดยเป้าหมายในสิ้นไตรมาศ ปีนี้
คาดว่าจะสามารถระบุในระดับวันที่เกิด
และ keyword ได้

จบข่าว
 

เมษายน 02, 2550

ร้อนๆ

อากาศร้อนมาก
อยากเห็นหิมะจัง
ว่าแล้วก็เอาแป้งโรยลงมาจากชั้นสอง
เอาแป้งตรางู
แล้วก็เอาน้ำราดตัว แก้ผ้า
เอากระป๋องแป้งผูกกับชั้นสองไว้
เขย่าๆ
แล้วลงไปรอรับแป้ง

แค่นี้ก็ได้แล้ว หิมะ..ตรางู

ศิลปะทุกแขนงสามารถรวมตัวในการทำหนังได้

ในชีวิตหนึ่ง อ่านหนังสือมามากน้อยแค่ไหนกันเชียว
ถ้าไม่นับหนังสือที่ถูกบังคับ (ไม่อ่านก็ได้นะ) เช่น หนังสือเรียน
หนังสือที่ผมประทับใจ มีอยู่หลายเล่ม

ถ้าไม่สนใจแยกแยะประเภทหนังสือ ไม่ว่าจะเป็นหนังสือที่
ประกอบด้วยตัวหนังสือยื่บยั่บ หรือหนังสือที่ไม่มีตัวหนังสือเลย
หรือหนังสือที่มีช่องสำหรับวางรูปสวยๆ

ในชีวิตนี้ผมว่าผมมีหนังสือที่อ่านจบทั้งเล่ม เกินหลักพันเล่ม ... (จริงๆนะ)

เอาเท่าที่พอจำได้แล้วกัน เพราะเสียดายว่าในชีวิต ไม่เคยจดบันทึกว่า
ตัวเองอ่านหนังสือเล่มไหนไปแล้ว ประทับใจเล่มไหนบ้าง
แต่ถ้าให้ย้อนเวลาได้ ผมอยากทำนะ อย่างน้อย
เราก็จะได้รู้ว่า ชีวิตเรา ได้รับรู้อะไร

จำได้ดี โดราเอม่อน อ่านครั้งแรกเลย ไม่แน่ใจว่าอายุเท่าไร แต่ไม่เกิน ป.1
คิดว่าน่าจะก่อนเข้าป.1 ด้วยซ้ำ ซึ่งทำให้ผมชอบอ่านการ์ตูน
และรู้จักการ์ตูนญี่ปุ่น คิดๆแล้ว หนังสือที่ทำให้เราอ่านหนังสือได้
กลายเป็นหนังสือการ์ตูน ญี่ปุ่น .. ไม่ใช่หนังสือไทย

หลังจากอ่านการ์ตูนอย่างบ้าคลั่ง (ต่อยอดจากโดราเอม่อน ก็อ่านอื่นๆด้วย)
หนังสือที่เป็นตัวหนังสือ คิดว่าน่าจะประถมต้นๆ แต่ไม่ได้เด็กมาก
เพราะหนังสือนิยายเป็นเหมือนยาขมสำหรับผมในตอนนั้น
แค่เห็นก็ล้าไปหมด ไม่มีใจจะเปิด แต่มีหนังสือชุดหนึ่งที่ผมอ่านได้
และทำให้อ่านใหญ่เลย เห็นแล้วหยิบมาอ่านเรื่อยๆ (สมัยนั้น)
ใช่ครับ พล นิกร กิมหงวน

นิยาย สั้นๆ ยาวๆ แล้วแต่ตอน ที่เนื้อหาไทยแท้ๆ แต่สนุกโคตร
เป็นหนังสือที่ทำให้ผมต่อยอดไปอ่านนิยายแปล เล่มหนาขึ้น
และเปิดโลกให้เป็นคนรักการอ่านหนังสือที่ไม่ใช่หนังสือการ์ตูนอีกด้วย

จะว่าไปแล้ว ถ้า โดราเอม่อน มีบุญคุณ ในแง่ที่ทำให้ผมเป็นคนช่างอ่าน
การ์ตูน ทุกประเภท (ยกเว้นการ์ตูนตาแป๋ว ที่ผู้หญิงชอบอ่านกัน!)
พล นิกร กิมหงวน ก็มีบุญคุณ ในแง่ที่ทำให้ผมสามารถอ่านนิยาย
หรือหนังสือที่ไม่มีรูปประกอบสำเร็จ

คนบางคน (อย่างภรรยาผมเอง) เป็นคนที่อ่านการ์ตูน นี่ชอบ สบายมาก
แต่อ่านนิยายไม่ได้ เธอไม่มีจุดเปลี่ยน (Turning Point) แบบผมไง
คือผมเข้าใจ ว่าทำไมบางคนอ่านนิยาย เรื่องสั้น หรืออะไรแบบนี้ไม่ได้
เพราะเขาไม่พบจุดที่ทำให้เขาอยากอ่าน

ผมก็พยายามให้เขาลองอ่านดู แต่ก็ไม่สำเร็จ ตัวเอง ตอนนี้ยอมรับว่า
อ่านหนังสือช้ามาก และชอบอ่านไม่จบ (โดยอ้างว่า ไม่อยากให้จบ
มันสนุกจนเสียดาย เลยอ่านแค่ส่วนหนึ่ง แล้วหยุด ไม่อยากรู้ตอนจบ
เวลาที่นิยาย หรือเรื่องที่เราชอบมากๆ จบ เราจะเซ็งๆนะ ผมว่า การแก้
ก็อ่านมันแค่ส่วนหนึ่ง ที่เหลือไม่ต้องอ่าน หรือไม่ต้องอ่านจนจบ
มันก็จะไม่มีวันจบ (ซะงั้น))

ใจจริงๆ เนี่ย บางอารมณ์ อยากเป็นนักเขียน ใช่แล้ว แรงบันดาลใจคือ
พี่ปราบดา เนี่ยแหล่ะ คือผมน่ะ มีความฝันหลายอย่าง

ตอนเด็กๆ อยากเป็นนักเขียนการ์ตูน ต่อมา อยากทำเพลง ทำวงดนตรี
ทำ music complex ที่ใหญ่ๆ ให้โอกาสเด็กๆ ทำเพลง เล่นคอนเสริต
ออกอัลบั้มกัน แต่พอมาถึงยุคที่ได้ตั้งใจดูหนังขึ้น ก็พบว่ามีผู้กำกับอย่าง
พี่ต้อมเป็นเอก พี่เจ้ย อภิชาติพงศ์ ความฝันเลยมีแว้บๆ ว่าอยากเป็นผู้กำกับ
ซึ่งผมมาคิดดูแล้ว

การกำกับหนัง หรือทำหนัง คือการรวมเอาทุกอย่างที่ผมอยากเป็นไว้ในคราเดียว
ยังไงหรือ ก็คือ
1) Plot + บท เรื่องนี้ ต้องใช้ความสามารถในการเป็นนักเขียน
2) การถ่ายทำหนัง + story board (ถ้ามี) อันนี้ ใช้ความสามารถในการ
วาดภาพ คิดภาพ ศิลปะ อ้อ เรื่องการจัดฉากด้วย จัดมุมต่างๆ
3) การอัดเสียง อันนี้ใช้ความสามารถในการเป็น sound engineer ต้องรู้วิธีการ
วางไมค์ รู้ประเภท ไมค์ ว่าต้องใช้อย่างไรให้เหมาะ
4) การทำเพลงประกอบ อันนี้ใช้ความรู้ทางดนตรี
5) ตัดต่อ อันนี้ ก็ใช้ความสามารถทางศิลปะล้วนๆ + ดนตรีเหมาะสม

สรุปคือ ถ้าผมทำหนัง ผมคงไม่ได้เป็นแค่ผู้กำกับ เพราะความฝันของผม
คือการทำ 5 ข้อที่อยู่ข้างบน จริงๆ ยังมีเรื่อง special effect
การใช้ computer ในการช่วย สร้างสรรค์ผลงานอีก

ดังนั้น ผมคิดว่า ถ้าเป็นไปได้ ผมควรทำหนังจริงๆจังๆ เสียทีครับ :)

ชายแปลกหน้าในร้านกาแฟริมทาง

ร้านกาแฟสด ในปั๊มน้ำมัน ริมถนน ที่ตัดผ่านเขา
มีรถที่แวะมาพักจอด เพื่อหาอะไรดื่มแก้ง่วง หรือไว้งีบ
ไม่ได้เงียบเหงาอย่างที่คิด หรือว่าวันนี้เป็นวันหยุด

บรรยากาศบนเขาปลายเดือนธันวาคม ค่อนข้างหนาว
ลมพัดแสกหน้า คล้ายมีหมอกปะปนอยู่
อุณหภูมิ คิดว่าคร่าวๆ ไม่น่าสูงกว่า สิบองศาแน่ๆ
เก้าอี้ไม้รูปทรงเรียบ พร้อมโต๊ะไม่ใหญ่ ตั้งอยู่นอกร้าน
เป็นวิวสวย ที่มองตัดออกไปเหมือนร้านกาแฟเป็นระเบียง
เพียงแต่มองออกไปนอกระเบียง จะเห็นวิวภูเขาสวยสด

มองดูยอดไม้สีเขียว และเมฆขาว ปอยเมฆไม่มาก แต่ฟ้าสีฟ้า
ดูสดและตัดกันอย่างไม่มีที่ติ อยากจมตัวเองลงบนเก้าอี้ตัวนี้
นานเท่านาน และอยากให้เวลาหยุดเดิน
เพียงแค่ได้นั่งเฝ้ามองภาพบรรยากาศที่ไม่อาจปฏิเสธนี้...นานๆ
...รับลมอยู่อย่างนี้ ละเลียดฟองคาปูชิโน่ร้อนอยู่อย่างนี้...

ในใจคิด ... ความรักไม่เคยให้อะไรกับใครได้จริง...

ยังไม่ทันที่ถ้วยกาแฟจะถูกจิบจนน้ำกาแฟในแก้เหือดไปหมด
มีรถยนต์คันหนึ่งเข้ามาจอดไม่ไกลจากร้านและรถคันอื่นๆ
ภาพที่เห็นคือ ประตูรถเปิดออก และมีหญิงสาวซึ่งเป็นคนขับ
เธอลงมาเพียงลำพัง ใบหน้าเธอเต็มไปด้วยความหมองเศร้า
และถ้าสังเกต จะเห็นคราบน้ำตาที่แก้มเธอ เพียงแต่
ไม่สามารถมองเห็นดวงตาเธอได้ เพราะแว่นตาดำที่เธอสวมบดบัง
ดูจากป้ายทะเบียนรถ เธอคงมาจากที่เดียวกัน...

เธอเดินไปสั่งกาแฟ เสียงหม่นๆแต่ฟังได้ชัด
เธอสั่ง ม็อคค่าร้อน ไม่ใส่น้ำตาล แบบถ้วยกระดาษ

เมื่อได้แล้ว เธอก็กลับไปที่รถของเธอ .. และขับจากไป ...

กาแฟคาปูฯ ในแก้วเย็นชืด เพราะไม่ได้จิบเลย ตั้งแต่เธอมา
มัวแต่จ้องความงามปนหมองของเธอ...

ในใจคิด ... ความรักไม่เคยให้อะไรกับใครได้จริง...

แม้เหงาเง้าเหงา... ก็ยังไม่พาล ได้พบอะไรแบบนี้

นี่แหล่ะ... ชีวิต