๑
มีเพียงเสียงสายฝนบางเบาล้ำเส้นเข้ามา ร่องหูของเมย์ถูกปกคลุมหมดจดด้วยหูฟังรูปทรงกลมแบบเกี่ยวหู ยี่ห้อโซนี่ เชื่อมต่อกับช่องเสียบสายหูฟังของเครื่องเล่นไฟล์เพลงเอ็มพีทรี ไอพ๊อดนาโน รูปร่างสี่เหลี่ยมผืนผ้าบางเบา สีขาว ตัวเครื่องเล่นสวมอยู่ในปอกกันกระแทกขนาดเล็กกระทัดรัด ปากของเธอเม้มแน่น ถ้าสังเกตดีๆ จะเห็นคราบน้ำตาที่แก้ม
"เราเลิกกันเถอะนะ พี่คิดว่าเราสองคนคงไปกันไม่ได้" เมื่อสิบห้านาทีก่อน คำพูดของเคนผ่านออกมาจากโทรศัพท์มือถือแบบพ็อกเก็ตพีซี ยี่ห้อโอทู รุ่นอะตอม เอ๊กเซ็กแบบนี้ สามปีที่ทั้งคู่คบหากันในฐานะที่เกินคำว่าเพื่อนร่วมงานจบลงง่ายๆแค่นั้น โดยที่เมย์เองก็ไม่คาดคิด เพราะไม่เคยมีเรื่องอะไรที่ทำให้ทั้งสองคนต้องทะเลาะกันเลยตั้งแต่วันแรกที่คบหา
"ทำไม.. ทะ.." ยังไม่ทันที่เมย์จะพูดจบ เคนกดโทรศัพท์ทิ้ง และปิดเครื่อง ภาพเก่าๆ ที่ทั้งสองเคยอยู่ด้วยกัน โรงหนังที่เคยไปดู ร้านอาหารที่เคยไปดินเน่อร์ใต้แสงเทียนสลัวเหมาะกับการออเซาะ
"ลาก่อน...คนเลว" เมย์คิดในใจคนเดียว แต่มันก็คงเป็นเพียงการด่าทอในใจโดยไม่รู้สาเหตุ เพียงปริศนาที่รอการเปิดเผยจากเคน ทำให้เมย์สับสน ความต้องการที่แท้จริงของชีวิต อนาคต ครอบครัว การแต่งงาน ทุกอย่างดูเหมือนจะสลายหายไปกับสายฝนที่กำลังตกอยู่นอกหน้าต่างออกไป
วิวทะเลสวยของหาดบางแสนมองจากโรงแรมเดอะไทด์ รีสอร์ต ที่เที่ยวกับครอบครัวประจำวันหยุดของเมย์ ต้องกลายสภาพเป็นสถานฟื้นฟูจิตใจเสียแล้ว อีกกี่นาที กี่ชั่วโมง กี่วัน กว่าเธอจะได้กลับกรุงเทพ เพื่อไปหาและเคลียร์เรื่องทั้งหมดกับเคน ใจเธอที่เบาหวิวตอนมาถึงที่พัก กลับกลายเป็นหนักอึ้งปานมีภูเขาทับอยู่..
เท่านั้นเหรอ.. สิ่งที่รักแท้ ตอบแทนให้เธอ ความทุ่มเทที่ไม่เคยหมดสิ้นกับความรักและความเชื่อใจที่เธอมีกับเคน กับแค่คำพูดสองสามประโยค แล้วกดสายทิ้งเนี่ยนะ
สุดท้ายความรักของเมย์คือความว่างเปล่า และความว่างเปล่า นั่นแหล่ะคือสิ่งเดียวที่มั่นคง ก่อนหน้าที่เธอจะรู้จักกับเคน เพื่อนร่วมงานที่แสนดี พบกัน ทำงานที่เดียวกัน ตกลงเป็นคู่รักกัน แล้วก็จบลง.. ความว่างเปล่าซ่อนเร้นอยู่ในนั้นเสมอ เพียงแต่ห้วงเวลานั้น มันช่างหายากมาก เพราะใจเธอมีเคนเติมเต็มจนแยกไม่ออก.. แต่ก็ไม่มีความสำคัญอะไรอีกแล้ว
จะว่างเปล่า หรือเติมเต็ม ไม่มีเขาคนที่เธอรักอีกแล้ว ทำอย่างไรดี..
๒
ย้อนกลับไปเมื่อยี่สิบนาทีก่อน ในห้องเช่าเก่าโทรม ย่านสุขุมวิท บรรยากาศในห้องอับ ฝุ่นผงปกคลุมไปทั่วบริเวณ ภายในห้องมีแสงน้อยนิดเล็ดรอดเข้ามาได้ แม้เวลานั้นจะสายแล้ว แต่ม่านสีม่วงเข้มถูกแผ่เต็มบานหน้าต่าง ทำให้ห้องดูมืดหม่นเหมือนเวลากลางคืน
"โทรไปหาเมย์ แล้วพูดซะ ไม่งั้นตาย" เสียงขู่ของชายใส่หน้ากาก ที่ถือปืนพกขนาดกระทัดรัดเก็บเสียงจ่อขมับของเคน ซึ่งถูกจับมัดอยู่บนเก้าอี้ทั้งแขนและขา ใบหน้าเขียวช้ำ เพราะโดนซ้อมก่อนหน้านี้มาพอสมควร
"เราเลิกกันเถอะนะ พี่คิดว่าเราสองคนคงไปกันไม่ได้" เคนปล่อยเสียงปกติ ผ่านโทรศัพท์มือถือโนเกีย รุ่นเอ๊นแปดสิบ พยายามปกปิดความเจ็บปวด และพิรุธ เพราะนั่นหมายถึงการถูกเป่าสมองกระจายในห้องที่เขาเองก็ไม่รู้ว่าตั้งอยู่ที่ไหน และมาถึงที่นี่ได้อย่างไร รู้เพียงแต่ว่า ถูกของแข็งตีเข้าที่ศีรษะ ภาพต่อมาคือมืด และลืมตามาก็โดนบาทากระทืบเข้าที่ร่างกายตั้งแต่หัวจรดเท้า
ขายใส่หน้ากากกระชากโทรศัพท์รุ่นใหม่ของเคนออกแล้วเขวี้ยงลงพื้นอย่างแรงจนกระจุยกระจาย
"แกต้องการอะไร" เคนเค่นเสียงเท่าที่จะทำได้
"..มีสิทธิ์อะไรในตัวเธอ!!" เสียงโกรธเกรี้ยวดังกังวานสวนกลับทันที พร้อมๆไปกับหมัดลุ้นๆ โถมเข้าที่ดั้งจมูก เลือดกำดาวที่เพิ่งหยุดไหลของเคน กลับมาไหลอีกครั้งเหมือนน้ำฝนที่กำลังตกอยู่ที่บางแสน
"เมย์.. พี่ขอโทษ" เคนคิดในใจ วูบสุดท้าย ก่อนที่สลบเหมือบไปพร้อมบทสรุปสุดท้ายของร่างในภพนี้ ลมหายใจที่เคยมีเพื่อเมย์กำลังหยุดลง หัวใจที่เคยมีเมย์อยู่ทุกห้องกำลังหยุดเต้น
ทุกอย่างกลับสู่ความว่างเปล่าอีกครั้ง ชีวิตเริ่มต้นจากความว่างและกลับสู่ความว่าง...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น