ผมเพิ่งไปดู "พลอย" มาครับ เมื่อรอบเที่ยงห้าสิบห้า เวลาบัตร
แต่เวลาฉาย ปาไปบ่ายโมงครึ่ง แบบนี้ต้องมีใครทำอะไรบ้างแล้วมั้ง
ปล่อยให้คนดูเข้าไปนั่งรอหนัง นานถึง 40 นาที!
ค่ายเมเจอร์ร้ายกาจจริงๆ คงเอาเงินค่าโฆษณาเข้ากระเป๋าสบายแฮ
หนังเรื่อง พลอย ดูสนุกกว่าที่คิดเยอะมากๆ แถมการใช้วิธีถ่ายแบบ
hand held (กล้องสั่น แบบถ่าย handy cam) ทำให้นึก
ไปถึงการถ่ายของคริสโตเฟอร์ ดอย อย่างช่วยไม่ได้ ไม่รู้ว่าอิทธิพลทางใดก็ทางหนึ่ง
แต่ที่แน่ๆ เคยอ่านสัมภาษณ์พี่เป็นเอก ว่าชอบหนังเรื่อง อหิงสา จิ๊กโก๋มีกรรม
ไม่แน่ใจว่าผมเข้าใจผิดหรือเปล่า คาแรกเตอร์ของ อหิงสา มันแรงนะครับ
ไม่ใช่แรงแบบก้าวร้าว แต่มันชัดเจน คือหัวฟู พูดกับทุกคนด้วยคำว่า "เรา"
ไม่มีการเรียกตัวเองว่าผม เรียกคนอื่นว่า "นาย" ตลอด มันเท่ (หรือแปลก)
เช่น คุยกับคนอายุประมาณลุง เรียกตัวเองว่า "เรา" สังคมไทยมันไม่มีนะ มันแปลกแยก
แต่ใน "พลอย" หัวฟูนี่อาจจะได้อิทธิพลจาก "อหิงสา" ไม่มากก็น้อย แต่ที่ต้องเอะใจคือ
"ความรักมีวันหมดอายุเหมือนอาหารกระป๋อง" เนี่ย มันคุ้นมากๆ เพราะมันคือ บทสนทนา
และ ตัวละครนึง(ก็ว่าได้) ของหนังเรื่อง ชุงคิง เอ็กเพลซ (ฮ่องกง) ผู้กำกับ หว่อง กาไว นั่นเอง
ผมไม่ได้มองว่า มันคือการเลียนแบบ แต่มันคือกลิ่นไอ เท่านั้น ผมว่าตัวพี่เป็นเอก คงไม่ได้คิดจะลอก
หรือเลียนแบบ แต่นี่คือหนังที่ดู "สนุก" กับคนที่ผ่านชีวิตมาพอสมควร เด็กๆดูอาจไม่สนุกเลย
สำหรับผม ผมชอบครับ ไม่เบื่อเลย ดูได้ทั้งเรื่อง ไม่มีอารมณ์ประมาณเบื่อ ช้าไปแล้ว
หรืออะไรพวกนี้ คงไม่เทียบกับ Last Life เพราะเรื่องนั้น ผมว่าอารมณ์เอื่อยเฉื่อยเป็นระเบียบ
เป็นจุดแข็งของหนัง ที่แม้จะช้า แต่ช้าแบบมีความสวยงาม ส่วน Invisible นั้น ขอบอกตรมตรงว่า
ผมเสียความรู้สึกมากๆ กับการแสดงของ อาซาโน่ (ที่ผมชอบมากในเรื่อง Last Life)
พลอย ให้ความรู้สึกว่า ชีวิตคู่ มันมีจุดนี้อยู่ แต่เราจะทำให้มันผ่านพ้นได้อย่างไร ..
สำหรับส่วนหลังจากนี้ เป็น Spoiled สำหรับคนที่ไม่คิดจะดู หรือคนที่ดูแล้ว ก็อ่านได้ครับ
เป็นการเล่าเรื่องของหนังทั้งหมด
หนังเปิดเรื่องที่ วิท กับแดง สามี ภรรยา กลับมาจากอเมริกา ที่ทั้งคู่อาศัยอยู่เป็นสิบปี
โดยวิทเปิดร้านอาหารอยู่ที่นั่น การกลับมาเพื่อไปงานศพ ของใครคนหนึ่ง
(หนังไม่ได้บอกว่า คนผู้นั้นเป็นญาติฝ่ายไหน ของใคร) เมื่อมาถึงเมืองไทย ทั้งคู่ไม่มีบ้านที่ไทย
ก็เลยต้องพักโรงแรม (หรือมีแต่มีที่ภูเก็ต ก็ไม่แน่ใจ เพราะหนังบอกว่า วิท เป็นคนภูเก็ต ...
ทำไมต้องภูเก็ต !! หรือว่า .. Invisible Waves ?:) )
วิท สูบบุหรี่ และเมื่อถึงห้องพัก บุหรี่หมด วิทเลยบอกแดงว่าจะลงไปซื้อบุหรี่... ตอนวิทลงไป
แดงพบเศษกระดาษในกระเป๋า เขียนชื่อ "น้อย" และเบอร์โทร ...แต่วิทไม่ได้ไปแค่ซื้อบุหรี่เท่านั้น
เขาไปนั่งในบาร์ ซึ่งเป็นที่ที่เขาได้พบกับเด็กสาวที่ดูโคตรเด็ก (สายป่าน) ชื่อว่า พลอย
เขาคุยกัน และพบว่า พลอยมารอแม่ที่กำลังกลับมาจาก สวีเด็น และพลอยสูบบุหรี่ด้วย
(อันนี้ ต้องการสื่อว่า การสูบบุหรี่ เป็นสิ่งที่ผู้กำกับนิยม ถ่ายทอดมาในหนังได้ทุกเรื่อง
เลยจริงๆ พับผ่า 55) ด้วยความที่เป็นคนภูเก็ตเหมือนกัน และสงสารที่ต้องนั่งรออีกนาน
จึงชวนพลอยมานอนที่ห้อง (นอนพักจริงๆ ไม่ได้หวังจะมีเซ็กส์) เมื่อมาถึงห้อง
แดงก็ไม่พอใจแล้ว เพราะเพิ่งพบกับเบอร์โทร "น้อย"
หนังจากนี้ เป็นเรื่องของอารมณ์ล้วนๆ และมัน "ผู้ใหญ่" มากๆ หนังไม่เด็ก และ
"หมิว" เล่นได้เก่งมากๆ ครับ ชอบหมิวเล่นจัง ส่วน "สายป่าน" ไม่เด่น "อันดา" ไม่เด่น
มีแต่หมิว ที่ต้องเล่นกับอารมณ์มากๆ และยังโดน "ข่มขืน" อีก... อะไรจะขนาดนั้น !
สรุปว่า เป็นหนังดีครับ แต่ไม่ได้รางวัลในคานส์แน่ๆ ถ้าส่งไปสายประกวด ไม่ใช่ สายแสดง นะ
เพราะหนังเมืองคานส์ มันต้องมึนๆ งงๆ ซึ่ง พลอยเนี่ย ชัดเจน และเข้าถึงอารมณ์ ...
(แต่แปลก .. ไม่ประทับใจ) ไม่มึน ไม่งง แม้แต่น้อยเน้อ :)
ผมให้ 4/5 ครับ ....
แต่เวลาฉาย ปาไปบ่ายโมงครึ่ง แบบนี้ต้องมีใครทำอะไรบ้างแล้วมั้ง
ปล่อยให้คนดูเข้าไปนั่งรอหนัง นานถึง 40 นาที!
ค่ายเมเจอร์ร้ายกาจจริงๆ คงเอาเงินค่าโฆษณาเข้ากระเป๋าสบายแฮ
หนังเรื่อง พลอย ดูสนุกกว่าที่คิดเยอะมากๆ แถมการใช้วิธีถ่ายแบบ
hand held (กล้องสั่น แบบถ่าย handy cam) ทำให้นึก
ไปถึงการถ่ายของคริสโตเฟอร์ ดอย อย่างช่วยไม่ได้ ไม่รู้ว่าอิทธิพลทางใดก็ทางหนึ่ง
แต่ที่แน่ๆ เคยอ่านสัมภาษณ์พี่เป็นเอก ว่าชอบหนังเรื่อง อหิงสา จิ๊กโก๋มีกรรม
ไม่แน่ใจว่าผมเข้าใจผิดหรือเปล่า คาแรกเตอร์ของ อหิงสา มันแรงนะครับ
ไม่ใช่แรงแบบก้าวร้าว แต่มันชัดเจน คือหัวฟู พูดกับทุกคนด้วยคำว่า "เรา"
ไม่มีการเรียกตัวเองว่าผม เรียกคนอื่นว่า "นาย" ตลอด มันเท่ (หรือแปลก)
เช่น คุยกับคนอายุประมาณลุง เรียกตัวเองว่า "เรา" สังคมไทยมันไม่มีนะ มันแปลกแยก
แต่ใน "พลอย" หัวฟูนี่อาจจะได้อิทธิพลจาก "อหิงสา" ไม่มากก็น้อย แต่ที่ต้องเอะใจคือ
"ความรักมีวันหมดอายุเหมือนอาหารกระป๋อง" เนี่ย มันคุ้นมากๆ เพราะมันคือ บทสนทนา
และ ตัวละครนึง(ก็ว่าได้) ของหนังเรื่อง ชุงคิง เอ็กเพลซ (ฮ่องกง) ผู้กำกับ หว่อง กาไว นั่นเอง
ผมไม่ได้มองว่า มันคือการเลียนแบบ แต่มันคือกลิ่นไอ เท่านั้น ผมว่าตัวพี่เป็นเอก คงไม่ได้คิดจะลอก
หรือเลียนแบบ แต่นี่คือหนังที่ดู "สนุก" กับคนที่ผ่านชีวิตมาพอสมควร เด็กๆดูอาจไม่สนุกเลย
สำหรับผม ผมชอบครับ ไม่เบื่อเลย ดูได้ทั้งเรื่อง ไม่มีอารมณ์ประมาณเบื่อ ช้าไปแล้ว
หรืออะไรพวกนี้ คงไม่เทียบกับ Last Life เพราะเรื่องนั้น ผมว่าอารมณ์เอื่อยเฉื่อยเป็นระเบียบ
เป็นจุดแข็งของหนัง ที่แม้จะช้า แต่ช้าแบบมีความสวยงาม ส่วน Invisible นั้น ขอบอกตรมตรงว่า
ผมเสียความรู้สึกมากๆ กับการแสดงของ อาซาโน่ (ที่ผมชอบมากในเรื่อง Last Life)
พลอย ให้ความรู้สึกว่า ชีวิตคู่ มันมีจุดนี้อยู่ แต่เราจะทำให้มันผ่านพ้นได้อย่างไร ..
สำหรับส่วนหลังจากนี้ เป็น Spoiled สำหรับคนที่ไม่คิดจะดู หรือคนที่ดูแล้ว ก็อ่านได้ครับ
เป็นการเล่าเรื่องของหนังทั้งหมด
หนังเปิดเรื่องที่ วิท กับแดง สามี ภรรยา กลับมาจากอเมริกา ที่ทั้งคู่อาศัยอยู่เป็นสิบปี
โดยวิทเปิดร้านอาหารอยู่ที่นั่น การกลับมาเพื่อไปงานศพ ของใครคนหนึ่ง
(หนังไม่ได้บอกว่า คนผู้นั้นเป็นญาติฝ่ายไหน ของใคร) เมื่อมาถึงเมืองไทย ทั้งคู่ไม่มีบ้านที่ไทย
ก็เลยต้องพักโรงแรม (หรือมีแต่มีที่ภูเก็ต ก็ไม่แน่ใจ เพราะหนังบอกว่า วิท เป็นคนภูเก็ต ...
ทำไมต้องภูเก็ต !! หรือว่า .. Invisible Waves ?:) )
วิท สูบบุหรี่ และเมื่อถึงห้องพัก บุหรี่หมด วิทเลยบอกแดงว่าจะลงไปซื้อบุหรี่... ตอนวิทลงไป
แดงพบเศษกระดาษในกระเป๋า เขียนชื่อ "น้อย" และเบอร์โทร ...แต่วิทไม่ได้ไปแค่ซื้อบุหรี่เท่านั้น
เขาไปนั่งในบาร์ ซึ่งเป็นที่ที่เขาได้พบกับเด็กสาวที่ดูโคตรเด็ก (สายป่าน) ชื่อว่า พลอย
เขาคุยกัน และพบว่า พลอยมารอแม่ที่กำลังกลับมาจาก สวีเด็น และพลอยสูบบุหรี่ด้วย
(อันนี้ ต้องการสื่อว่า การสูบบุหรี่ เป็นสิ่งที่ผู้กำกับนิยม ถ่ายทอดมาในหนังได้ทุกเรื่อง
เลยจริงๆ พับผ่า 55) ด้วยความที่เป็นคนภูเก็ตเหมือนกัน และสงสารที่ต้องนั่งรออีกนาน
จึงชวนพลอยมานอนที่ห้อง (นอนพักจริงๆ ไม่ได้หวังจะมีเซ็กส์) เมื่อมาถึงห้อง
แดงก็ไม่พอใจแล้ว เพราะเพิ่งพบกับเบอร์โทร "น้อย"
หนังจากนี้ เป็นเรื่องของอารมณ์ล้วนๆ และมัน "ผู้ใหญ่" มากๆ หนังไม่เด็ก และ
"หมิว" เล่นได้เก่งมากๆ ครับ ชอบหมิวเล่นจัง ส่วน "สายป่าน" ไม่เด่น "อันดา" ไม่เด่น
มีแต่หมิว ที่ต้องเล่นกับอารมณ์มากๆ และยังโดน "ข่มขืน" อีก... อะไรจะขนาดนั้น !
สรุปว่า เป็นหนังดีครับ แต่ไม่ได้รางวัลในคานส์แน่ๆ ถ้าส่งไปสายประกวด ไม่ใช่ สายแสดง นะ
เพราะหนังเมืองคานส์ มันต้องมึนๆ งงๆ ซึ่ง พลอยเนี่ย ชัดเจน และเข้าถึงอารมณ์ ...
(แต่แปลก .. ไม่ประทับใจ) ไม่มึน ไม่งง แม้แต่น้อยเน้อ :)
ผมให้ 4/5 ครับ ....
1 ความคิดเห็น:
หา... โดนข่มขืนอีก!!! ...
เฮ้อออออ...
แสดงความคิดเห็น