ฟังทั้งอัลบั้มแล้วครับ
รู้สึกชอบในความคิดสร้างสรรค์ที่โปรดิวเซอร์กระชายและปริน พยายามสร้างมันออกมา ผมรู้สึกว่าพวกเขารักงานชิ้นนี้มากๆ จับได้จากรายละเอียดต่างๆที่ยิบย่อยเหมือนดาวบนฟ้าเลยทีเดียว
แต่โดยความชอบส่วนตัวแล้ว มีข้อที่ผมตินิดหน่อยครับ คือ ผมชอบให้เสียงบางอย่างมี Pattern ที่แน่นอน ถ้าผมเป็น Producer ผมจะให้ความสำคัญกับส่วนนี้มากๆ เช่น เสียงร้อง เสียงกลอง เสียงกีตาร์ การบันทึกควรให้มีเสียงที่เป็นสำเนียงเดียวกันทั้งหมด ทั้งอัลบั้ม เป็นเนื้อเดียวกันจึงรู้สึกขัดนิดหน่อยกับการที่เสียงร้องเพลง Welcome Home กับ Our First Day Will Come Again มีการ ใส่ Echo ให้กับเสียงร้องนำ โดดออกจากเพลงอื่นๆทั้งหมด(ผมชอบเสียงที่ไม่ใส่ Echo ของพี่คุ่นมากกว่าแบบมี Echoครับ) ข้อนี้ ทำให้ดนตรีภาพรวมทั้งอัลบั้ม ดูไม่ค่อยเป็นเนื้อเดียว (อันนี้เป็นความชอบส่วนตัวครับ บางคนอาจเห็นว่าสิ่งนี้เป็นการสร้างสีสรรค์ให้กับทั้งอัลบั้ม)
อีกส่วนที่ผมรู้สึกเสียดาย คือ Line ประสานเสียงร้อง เพราะเพลงแนวที่ผมชอบเนี่ย จะได้รับอิทธิพลจากเพลงที่เน้นเสียงร้องประสาน อย่าง The Beach Boys, The Beatles หรือ Weezer ก็แล้วแต่ การประสานเสียงมีส่วนสำคัญต่อเพลงไม่แพ้เสียงร้องนำเลย หลายๆเพลงถูกตัดพาร์ตที่เป็นเสียงประสานไปอย่างน่าเสียดาย เสียงร้องเมโลดี้เดียวกันเป๊ะ แต่คนนึงร้องสูง คนนึงร้องต่ำเนี่ย คืออีกเสน่ห์หนึ่งที่ Weezer ใช้ในงานชุดแรก (The Blue Album) ซึ่งผมชอบมาก
มาถึงส่วนสุดยอดในอัลบั้มชุดนี้บ้างครับ ผมว่าดนตรีของเพลง Lie to me once more ช่างกล้ามาก ฟังมั่วแต่ไม่มั่ว เหมือนเพลงที่ผมชอบเล่นเลย (จริงๆของผมนี่มั่ว ไม่ได้แกล้ง ฮ่าๆ)ลูกเล่นแพรวพราวมาก และดูเหมือนจะจงใจเล่นโน้ตไม่ถูกคีย์ด้วย อันนี้ขอใช้คำว่าช่างกล้า เพราะว่าจริงๆแล้วโปรดิวเซอร์แม่นมากๆกับเสียง ที่ยอมให้เสียงผิดคีย์ ออกมาแบบตั้งใจนี่แสดงว่าไอเดียกระฉูดครับ แม้แต่เสียงประสานเพลง Mr.Passerby ที่ผมไปอัดใหม่ พบว่า เสียงมันยังเป็นแบบผิดคีย์เหมือนในเดโมนี่ :P แสดงว่า โปรดิวเซอร์เลือกใช้เสียงจากเดโมคงต้องการอารมณ์มากกว่าความถูกต้องของดนตรี
เพลงที่ผมรู้สึกว่าเหมือนกับ Demo มากที่สุด น่าจะเป็น Bad Bangkok Blues กับ Me in the Dark อืม Danger ก็เหมือนแฮะ แต่พี่คุ่นร้องไม่มี Pattern ได้สะใจมากทำให้จับทางไม่ถูก เข้าทางพี่คุ่นเลย ฮ่าๆ ดีครับ
เพลงที่ผมเสียดายที่สุด น่าจะเป็น My Morning Moon เพราะว่า เป็นเพลงที่มีความหมายส่วนตัวสำหรับผม จริงๆอยากให้ออกมาเหมือนเดโม (หมายถึงเมโลดี้ และ Tempo) ก็เป็นการตีความดนตรีใหม่เพื่อให้ไม่เหมือนเพลงอื่นๆอีกหมื่นล้านเพลง (แต่ข้อเสียของเพลงผมคือ ฟังแล้วจะรู้สึกว่าเหมือนเคยฟังมาก่อน เพราะอะไรเหรอครับ เพราะผมไม่สามารถทนเล่นเพลงที่ไม่เพราะได้ และเพลงที่เพราะก็มักเป็นเพลงที่เคยเกิดขึ้นในโลกนี้และผมชอบ และฝังหัว โดยไม่รู้ตัวว่าเพลงที่เราแต่ง ไปมีส่วนเหมือนกับเพลงอื่นๆอีกหมื่นล้านเพลง) ข้อนี้ละมั้งที่ทำไมผมถึงชอบ Sonic Youthเพราะพวกเขาทำในสิ่งที่ผมไม่สามารถทำได้ คือมีความสุขกับเพลงที่ไม่เน้น melody ความไพเราะ แต่การแสดงสดของพวกเขา ทำให้ผมรู้สึกว่าพวกเขา "อิน" กับเพลงตัวเองมากแค่ไหน (ไม่น่าเชื่อ!)
ถึงอย่างไร การได้ทำงานเพลงในห้องอัด ทนหลังแข็งถ่างตาอัดเพื่อให้ได้เสียงที่ใช่ จัดไมค์ที่ถูกนี่ เป็นอะไรที่ผมไม่มีวันลืมเลยจึงขอบอกว่า ยังไง งานนี้ก็เป็นงานที่ผมรักมาก ไม่ว่าจะออกมาเป็นไงก็รักครับ เพราะเป็นงานที่คนทำตั้งใจให้งานออกมาดีคนทำทุ่มเทให้ความรักกับผลงาน มากกว่าเพื่อหวังผลทางการค้า (จริงๆผมเชื่อแบบที่พี่ต้อมเป็นเอกเชื่อในงานหนังของเขา คืองานหนังของเขามันขาย คนจะชอบ มัน mass แต่...จริงป่าวหว่า ฮะๆ) งานนี้จัดว่าเป็นงานที่สร้างสรรค์มากๆ มีไอเดียร์ให้เงี่ยหูฟังได้ไม่รู้เบื่อ และฟังกี่รอบๆ เพลงก็ยังน่าฟังเสมอครับ... :)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น